รีวิว Toyota BZ4X Minorchange (2025)
รีวิวToyota BZ4X Minorchange (2025) รถไฟฟ้า100%
รีวิวTOYOTA bZ4X
วันนี้แอดจะมารีวิว รถไฟฟ้า 100 % ของโตโยต้า นั้นคือ Toyota bZ4X ถือเป็นก้าวสำคัญของโตโยต้าในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการนำเสนอรถยนต์ที่เน้นความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และความปลอดภัยมาตรฐาน Toyota Safety Sense (TSS)ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
มาดูกันที่ราคาจำหน่าย มีสองรุ่นย่อยให้เลือกค่ะ
- bZ4X FWD : 1,529,000 บาท
- bZ4X AWD : 1,649,000 บาท

NEW bZ4X ใน 2 รุ่นย่อย มีให้เลือกกันถึง 6 สีภายนอกจับคู่กับสีภายใน ดังนี้

สี Mono-tone 3 สี
• สีภายนอก Precious Metal | สีภายใน Black
• สีภายนอก Platinum White Pearl | สีภายใน Black
• สีภายนอก Attitude Black Mica | สีภายใน Light Gray
สี Two-tone (Black Roof) ราคาเพิ่ม +20,000 บาท
• สีภายนอก Precious Metal / Black Roof | สีภายใน Black
• สีภายนอก Platinum White Pearl / Black Roof | สีภายใน Black
• สีภายนอก Emotional Red 2 / Black Roof | สีภายใน Black
มาดูกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลยค่ะ

ดีไซน์ ด้านหน้า Hammerhead ดีไซน์คล้ายหัวค้อน ซึ่งทำให้ตัวรถดูกว้างขวางและแข็งแกร่งขึ้น มาพร้อมกับไฟ Center Lamp ที่มีการเพิ่มไฟตรงกลางระหว่างไฟหน้าเข้ามา ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ชุดไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์เพรียวบางแบบ LED ให้ความสว่างและสวยงาม และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วและซุ้มล้อสีดำเงา
มาต่อกันที่ห้องโดยสารกันเลยค่ะ


ดีไซน์ภายใน ดูสปอร์ตหรูหราขึ้น พร้อมฟีลลิ่งพรีเมียมในห้องโดยสาร กว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยหลักการออกแบบ Open & Relax บริเวณที่นั่งผู้ขับขี่ออกแบบสไตล์ Cockpit ช่วยลดการละสายตา มอบทัศนวิสัยดีเยี่ยม มาพร้อมหลังคา Panoramic Moonroof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า และไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ปรับได้ถึง64 เฉดสี (บริเวณคอนโซลหน้าและบริเวณมือจับประตูด้านใน) มาพร้อมเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร ที่ดีเยี่ยมจัดเต็มทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน จอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว, ชาร์จไร้สาย 2 จุด, รองรับ Apple CarPlay/Android Auto, ไฟ Ambient Light และเครื่องเสียง JBL
ด้านสมรรถนะและการขับขี่

- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD): ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (PS) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 73.1 kWh
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD): ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 343 แรงม้า โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่แบบออฟโรดที่เรียกว่า X-MODE ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในสภาพพื้นผิวที่ท้าทาย
- อัตราเร่ง:
- รุ่น FWD: 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
- รุ่น AWD: 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที
- การจัดการพลังงาน: มีระบบ Boost Drive ที่ช่วยให้การขับขี่แบบคันเร่งเดียว (Single Pedal Driving) สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยอาศัยการชดเชยพลังงานจากเบรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- แพลตฟอร์ม e-TNGA: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่
- ปรับจูนสำหรับตลาดไทย: สำหรับประเทศไทย โตโยต้าได้ปรับจูนช่วงล่างให้แข็งและหนึบขึ้น เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศและการใช้งานในประเทศ
- โครงสร้างแข็งแกร่ง: ตัวโครงสร้างที่แข็งแกร่งช่วยปกป้องแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ ลดความเสี่ยงจากแรงกระแทก
- ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด: รุ่น AWD ที่พัฒนาร่วมกับซูบารุ มาพร้อมระบบ X-MODE และ Grip Control ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนสภาพถนนที่ท้าทาย เช่น หิมะ, โคลน, หรือเส้นทางขึ้น-ลงเขา
ด้านความปลอดภัย

- Toyota Safety Sense: ระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงกลับ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบช่วยเหลือและเตือน:
- กล้อง 360 องศา (Panoramic View Monitor)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSM) และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (Safe Exit Assist)
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
ด้านการบริการหลังการขาย
- การรับประกัน: รับประกันแบตเตอรี่นานสูงสุด 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร
- การอัปเดต: ระบบซอฟต์แวร์สามารถอัปเดตแบบ Over-the-Air (OTA) ได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ
- ศูนย์บริการ: สามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานของ Toyota ทั่วประเทศ
สรุปจุดเด่น
ราคาเริ่มต้น : 1,529,000 – 1,649,000 บาท
รุ่นย่อย : FWD (ขับเคลื่อนล้อหน้า) และ AWD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
แบตเตอรี่ : ลิเธียม-ไอออน (Li-ion) ความจุ 73.1 kWh
ระยะทางวิ่งสูงสุด : 600 กม. (NEDC) สำหรับรุ่น FWD
กำลังสูงสุด : รุ่น FWD: 224 แรงม้า / รุ่น AWD: 343 แรงม้า
การรับประกันแบตเตอรี่ : 8 ปี หรือ 160,000 กม. (และโปรแกรมขยายการรับประกัน)
การชาร์จเร็ว DC : รองรับสูงสุด 150 kW (ชาร์จ 10% – 80% ได้ในเวลาประมาณ 28 นาที)
ที่มา :https://www.toyota.co.th/
FAQ
คำถาม 1. bZ4X ใช้แบตเตอรี่ขนาดเท่าไหร่ และวิ่งได้ไกลแค่ไหนต่อการชาร์จเต็ม?
- คำตอบ: ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 73.1 kWh
- รุ่น FWD: ระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 600 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
- รุ่น AWD: ระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 570 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
คำถาม 2.การรับประกันแบตเตอรี่เป็นอย่างไร?
- คำตอบ: โตโยต้าให้การรับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้าและการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และมีโปรแกรม Battery Care Program รับประกันสูงสุดถึง 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร
คำถาม 3.bZ4X รองรับการชาร์จแบบใดบ้าง?
- คำตอบ:
- การชาร์จ AC (ไฟบ้าน/ชาร์จธรรมดา): รองรับหัวชาร์จ Type 2 กำลังสูงสุด 7.4 kW หรือบางรุ่นสูงสุด 22 kW
- การชาร์จ DC (ชาร์จเร็ว): รองรับการชาร์จเร็วแบบ DC Fast Charge โดยรับกำลังไฟสูงสุดได้ถึง 150 kW ซึ่งสามารถชาร์จจาก 0-80% ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที
คำถาม 4.ความแตกต่างหลักระหว่างรุ่น FWD และ AWD คืออะไร?
- คำตอบ:
- FWD (Long Range FWD): ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหน้า เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและทางเรียบ กำลังสูงสุดประมาณ 224 แรงม้า
- AWD (Long Range AWD): ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม X-MODE สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด กำลังสูงสุดรวมประมาณ 343 แรงม้า มีอัตราเร่งที่ดีกว่า และมีระบบ JBL Premium Sound System
เป็นเจ้าของก่อนใคร กับ รถไฟฟ้า bZ4X ที่โตโยต้ากาญจนบุรี
สอบถามเพิ่มเติม : 081-736-4525 (ต๋อง) หรือ ขอใบเสนอราคา คลิก : goo.gl/9S4iN2
คุณสามารถติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับรถได้แบบฟรีๆ ที่
Line@ Click > >
@toyotakan1995
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีดีจากโตโยต้ากาญจนบุรี รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลรถและขับขี่รถอย่างปลอดภัย ได้ที่ โตโยต้ากาญจนบุรี นะคะ