เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?

cover-car-tires-800x577 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?
กรกฎาคม 7, 2025
Posted by: admin

 เช็คยางรถยนต์ สภาพไหนที่ต้องเปลี่ยนด่วน!

ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่บนท้องถนน ผู้ขับขี่จึงต้องหมั่นตรวจเช็ครถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือยางรถยนต์ เพราะหากยางรถยนต์ไม่พร้อมใช้งานอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ และวิธีเช็คยางรถยนต์ควรพิจารณาจากอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

ความลึกของดอกยาง-1-1024x1024 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?

1. ความลึกของดอกยาง

เช็คยาง-2-1-300x300 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?

ตรวจสอบระดับที่ควรเปลี่ยนยางหรือยัง ซึ่งความลึกของร่องยางสามารถแบ่งได้ตามนี้เลยค่ะ

  • 6-8 มม. หรือมากกว่า 8 มม. นั้น เป็นความลึกของร่องยางที่เหมาะสม ปลอดภัย
  • 4-5 มม. เป็นลักษณะที่ดอกยางหมดไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่แนะนำให้คอยหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำด้วยนะคะ
  • 3 มม. เป็นความลึกของดอกยางที่สมควรเปลี่ยน และจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่บนถนนที่เปียก (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยางแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นด้วยค่ะ)
  • 1.6 มม. สภาพความลึกที่เหลือเพียงเท่านี้คือดอกยางหมดเกือบ 100% แล้วนั่นเอง ไม่ควรใช้งานต่อ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเมื่อขับขี่บนถนนที่เปียก

2. ยางบวม

เช็คยาง-3-1-300x300 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?

ยางบวมเป็นสัญญาณที่เป็นอันตรายมาก โดยมักจะเกิดบริเวณแก้มยาง สาเหตุเกิดจากการเสียดสีอย่างรุนแรง หรือการขับรถตกหลุมอยู่บ่อยๆ ผู้ขับขี่จึงควรเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัยค่ะ

3. เนื้อยางแข็งกระด้าง

เช็คยาง-4-1-300x300 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?   เนื้อยางแข็งกระด้างสามารถแบ่งได้ 2 กรณี

  • หมดสภาพก่อนที่ดอกยางจะหมด ซึ่งสาเหตุมาจากรถไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ค่อยได้วิ่ง ใช้งานน้อย
  • ดอกยางหมดก่อนที่ยางจะแข็ง เป็นการใช้งานรถเป็นประจำ วิ่งไกลและใช้งานบ่อยครั้ง

วิธีการสังเกตว่ายางรถยนต์ของเรานั้นจะมีอาการเนื้อยางแข็งเมื่อไรหรือดูได้อย่างไร สามารถสังเกตได้จากผิวยางล้อรถยนต์เริ่มมีการแตกลายงา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะเริ่มแตกลุกลามไปเรื่อยๆ แต่ยางยังสามารถใช้งานได้ตามปกติเพียงแต่ประสิทธิภาพของยางจะขาดความนิ่มและความยืดหยุด จะทำให้มีความรู้สึกถึงความแข็งกระด้างของยาง ยึดเกาะถนนน้อยลง เสียงยางขณะขับขี่บนถนนจะดังมากขึ้นกว่าเดิม

4. บริเวณไหล่ยางมีความสึก

เช็คยาง-1-1-300x300 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน?   เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไหล่ยางสึกไปด้านใดด้านหนึ่งหรือดอกยางสึกไม่เสมอเท่ากันทั้งเส้น ให้เช็คที่ระบบช่วงล่าง การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ แต่ถ้าหากพบว่าไหล่ยางทั้งด้านในและด้านนอนสึกมากกว่าหน้ายาง ให้ตรวจสอบในเรื่องความดันลมยาง โดยสาเหตุอาจเกิดจากความดันลมยางที่ต่ำเกินกำหนด การขับขี่รถที่มีความดันลมยางต่ำจะทำให้รถกินน้ำมันและมีความเสี่ยงสูงมากที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนควรทำการเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ระยะกิโลเมตรที่ได้กำหนดไว้ หรือถ้าหากยังไม่ถึงกำหนดเปลี่ยนแต่ถ้ายางรถยนต์ของเรามีอาการผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานหรือสภาพถนนที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล ก็ควรเปลี่ยนยางเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยค่ะ

ที่มา:www.tqm.co.th

💡 FAQ: เช็คยางรถยนต์ สภาพไหนที่ต้องเปลี่ยน?

1. ต้องพิจารณาอะไรบ้างในการตรวจสอบว่ายางรถยนต์ถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง?

คำตอบ: ควรพิจารณาสภาพยางจาก 4 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้:

  1. ความลึกของดอกยาง
  2. ยางบวม
  3. เนื้อยางแข็งกระด้าง
  4. บริเวณไหล่ยางสึก

2. ความลึกของดอกยางระดับใดที่ถือว่าต้องเปลี่ยน?

คำตอบ: ความลึกของดอกยางที่ควรพิจารณาเปลี่ยนตามคำแนะนำในบทความ:

  • 1.6 มม. เป็นระดับที่ถือว่าดอกยางหมดเกือบ 100% แล้ว ไม่ควรใช้งานต่อ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเมื่อขับขี่บนถนนเปียก
  • 3 มม. เป็นความลึกที่สมควรเปลี่ยน และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่บนถนนที่เปียก (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของยางด้วย)
  • 4-5 มม. ดอกยางหมดไปประมาณ 50% ยังใช้งานได้ตามปกติ แต่ควรหมั่นตรวจเช็กเป็นประจำ
  • 6-8 มม. หรือมากกว่า 8 มม. เป็นความลึกของร่องยางที่เหมาะสมและปลอดภัย

3.”ยางบวม” หมายถึงอะไรและอันตรายแค่ไหน?

คำตอบ: ยางบวม เป็นสัญญาณอันตรายที่มักเกิดบริเวณแก้มยาง สาเหตุมาจากการเสียดสีอย่างรุนแรง หรือการขับรถตกหลุมอยู่บ่อยครั้ง เมื่อพบอาการยางบวม ผู้ขับขี่ควรรีบเปลี่ยนยางรถยนต์ทันทีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่

สอบถามเพิ่มเติมหรือนัดหมายได้ที่ Call Center 034-540789 ได้เลยค่ะ

คุณสามารถติดตามโปรโมชั่น ข่าวสารดีๆ แบบฟรีๆ ได้ที่
Line@ Click > > line-logo-1x1 เช็คยางรถยนต์ แบบไหนต้องเปลี่ยน? @toyotakan1995 

หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !

เรื่องรอบรู้เรื่องรถ : มาใหม่