5 ข้อควรระวัง!!! ทำร้ายสีรถคุณ

car_001-800x577 5 ข้อควรระวัง!!! ทำร้ายสีรถคุณ
มีนาคม 6, 2018
Posted by: TOYOTA KAN Editor

สีรถยนต์ ถือเป็นหน้าเป็นตาให้แก่เจ้าของรถอย่างมาก หากรถใครดูใหม่ สีสด และเอี่ยมอ่องตลอดเวลา วันนี้โตโยต้ากาญจนบุรี จะพาเพื่อนๆไปดูสาเหตุที่ร้ายสีรถกันค่ะ

หากว่ารถยนต์ของคุณเริ่มสกปรก คุณควรที่จะรีบทำความสะอาดทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะคราบสกปรกเหล่านั้นอาจฝังแน่น จนทำให้สีรถยนต์ถูกทำร้าย ซึ่งสิ่งที่สามารถทำร้ายสีรถยนต์ของคุณได้ มีอยู่ทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้

    1. ขี้นก ถือเป็นคราบสกปรกที่ไม่น่าดู และยังน่าเกลียดมากๆ นอกจากนี้มันยังติดลึกฝังแน่น แถมมันยังมีฤทธิ์เป็นกรดที่ทำลายสีรถได้อีกต่างหาก ซึ่งหากคุณเจอแบบนี้ อย่านำกระดาษทิชชู่ หรือผ้าไปเช็ดออกเด็ดขาด เพราะด้วยความที่มันติด มันแห้งมานานแล้ว พอเช็ดไปมันอาจทำให้รถของคุณเป็นรอยได้ ทางที่ดีให้นำสเปรย์ทำความสะอาดฉีดพ่นลงไป หรือถ้าไม่มี ให้ใช้น้ำเปล่าเทราดลงไปให้ชุ่ม จากนั้นรอสักครู่ เพื่อให้ขี้นกอ่อนตัวลง แล้วจึงค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ แตะให้มันออกเบาๆ หรือไปดู วิธีทำความสะอาดขี้นก ได้จากกระทู้  วิธีล้างรถโดนขี้นก จะล้างอย่างไร?

    2. จอดรถกลางแจ้ง นับเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก เพราะที่จอดรถบางที่อาจเป็นลานโล่งๆ ไม่ใช่ตึก หรือมีที่จอดในอาคาร ทำให้ไม่มีที่ให้หลบแดดตรงไหนเลย นอกจากนี้หากคุณจอดไว้เพื่อไปทำงานต่อ ตอนเย็นเลิกงานจึงค่อยกลับมาเอารถ นี่เท่ากับว่าคุณต้องจอดรถตากแดดทิ้งไว้เกือบ 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว และหากรถคุณเป็นสีเข้ม เช่น สีดำ มันจะยิ่งสะสม และดึงดูดความร้อนได้ดียิ่งกว่ารถสีอ่อน จะยิ่งทำให้สีรถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทางที่ดีให้หาผ้าคลุมรถมาช่วยจะดีกว่า หรือหาที่จอดใต้ต้นไม้ ที่จอดที่หลบมุมแดดได้ดีที่สุดค่ะ

    3. ฝุ่นผง แม้จะดูไม่น่ากลัว หรือมีปัญหาอะไร แต่เมื่อใดที่มันมาเกาะที่รถแล้วเจอความชื้น มันก็จะกลายเป็นคราบทันที และหากคุณไม่รีบเช็ดออกเดี๋ยวนั้น มันก็จะเกาะติดแน่นจนเป็นรอยด่างให้กับสีรถของคุณ ซึ่งวิธีแก้ไขสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการขัดสีรถนั่นเองค่ะ

    4. รอยขนแมว รอยขีดข่วน อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แค่รอยนิดๆ หน่อยๆ แต่จริงๆ แล้วมันค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว เพราะสีรถยนต์มีตัวเคลือบเอาไว้อยู่ เพื่อไม่ให้ความชื้นผ่านเข้าไปถึงชั้นโลหะ หรือแผ่นเหล็ก เนื่องจากมันจะก่อให้เกิดสนิมขึ้นที่เหล็กชั้นใน และหากเจอความชื้นสลับกับความร้อนบ่อยๆ ก็จะทำให้สีปูดขึ้นมา

    5. คราบน้ำมัน แม้จะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมากๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะบางครั้งเด็กปั๊มอาจเติมน้ำมันจนล้น หรือบางทีอาจไม่ระวัง ดึงหัวจ่ายออกมาจนกระเด็นไปโดนสีรถ ทำให้สีรถมีคราบเปื้อน และถ้าคุณปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำความสะอาด คราบน้ำมันก็จะซึมเข้าไปที่สีเคลือบ ทำให้เกิดเป็นรอยคราบ ยากต่อการทำความสะอาดมากกว่าเดิม ทางที่ดีหากเห็นคราบน้ำมัน ให้รีบทำความสะอาดทันที

     หากอยากให้รถของคุณสีสันสวยสดใส เงางาม และแวววาวไปนานๆ คุณควรที่จะล้างรถเป็นประจำ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง นอกจากนี้คุณควรที่จะตรวจดูสีรถบ่อยๆ หากต้องนำไปจอดที่อื่น เพื่อจะได้รู้ว่า มีรอยเปรอะเปื้อน หรือคราบสกปรกติดมาหรือไม่ จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที 

หากลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับสีของตัวรถหรือปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ต่างๆ

สามารถโทรขอคำปรึกษาจากทางศูนย์โตโยต้า กาญจนบุรี ได้ที่เบอร์ 034-540-789 หรือ www.toyotakan.com

คุณสามารถติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับรถได้แบบฟรีๆ ที่
Line@ Click > > line-logo-1x1 5 ข้อควรระวัง!!! ทำร้ายสีรถคุณ @toyotakan1995 

หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !

เรื่องรอบรู้เรื่องรถ : มาใหม่